ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

จุดกระโดดบันจี้จัมป์ที่ดีที่สุดในโลก


ประเภททริป
แอคทีฟ
กีฬาและการผจญภัย

บันจี้จัมป์เป็นหนึ่งในกิจกรรมสุดเอ็กซ์ตรีมที่ได้รับความนิยมที่สุดของโลก เพราะเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสการตัวลอยราวกับไร้น้ำหนัก วิวอันน่าตื่นเต้น อีกทั้งอะดรีนาลีนได้สูบฉีดเต็มที่ โดยด้านล่างนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการกระโดดทิ้งตัว

Macau Tower ในมาเก๊า ประเทศจีน

ด้วยความสูง 223 เมตรทำให้ Macau Tower เป็นจุดกระโดดบันจี้จัมป์ (ที่ทำเป็นธุรกิจ) ซึ่งสูงทึ่สุดในโลก

การกระโดดทิ้งตัวจาก Macau Tower ได้บันทึกเป็นสถิติโลกของ Guinness World Record ว่าเป็นจุดบันจี้จัมป์ (ซึ่งทำเป็นธุรกิจ) ที่สูงที่สุด อีกทั้งเป็นจุดกระโดดโปรดสำหรับผู้คนที่อยากให้อะดรีนาลีนพลุ่งพล่าน ผู้เล่นจะได้กระโดดลงมาจากแพลตฟอร์มที่สูง 233 เมตรจากพื้นและสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ทิ้งดิ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ช้าลงเมื่อมาถึงระยะ 30 เมตรจากพื้นดินซึ่งเชือกจะกระตุกเด้งกลับขึ้นไป นอกจากนี้ ระบบสายบันจี้ของที่นี่ก็ออกแบบมาให้กระโดดได้ในเกือบทุกสภาพอากาศ

แต่หากมองหาอะไรที่กดดันน้อยลงสักหน่อยก็สามารถลองสกายจัมป์แทนได้ เพราะคล้ายกันตรงที่ต้องกระโดดจากฐาน แต่สายที่รั้งไว้จะหย่อนช้าลงโดยใช้เวลา 17 วินาที (แทนที่จะเป็น 6 วินาที) ก่อนที่ผู้เล่นจะแตะพื้นดินตรงฐานตึก Macau Tower อย่างนุ่มนวล

สำหรับที่พักขอแนะนำ Hotel Riviera Macau ซึ่งให้บริการห้องพักที่สามารถเห็นวิว Macau Tower ได้โดยไม่มีอะไรมาบดบัง

Verzasca Dam ในติชิโน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จุดกระโดดนี้โด่งดังจากฉากในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ปี 1995 เรื่อง *พยัคฆ์ร้าย 007 รหัสลับทลายโลก*

หลายคนอาจจำสถานที่นี้ได้จากฉากเปิดของภาพยนตร์เรื่อง พยัคฆ์ร้าย 007 รหัสลับทลายโลก ซึ่งฉายในปี ค.ศ. 1995 ตอนที่เพียร์ซ บรอสแนน (ผู้สวมบท “เจมส์ บอนด์”) วิ่งไปตามแนวเขื่อน Verzasca Dam ก่อนจะกระโดดบันจี้จัมป์ที่ความสูง 220 เมตรไปยังฐานด้านล่าง และผู้ที่มองหาความตื่นเต้นเร้าใจก็สามารถจำลองฉากดังนี้ขึ้นมาได้เองในช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม นอกจากนี้เขื่อน Verzasca Dam ก็ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งซึ่งสามารถกระโดดบันจี้จัมป์ช่วงกลางคืน พร้อมมีแสงสปอตไลท์ส่องสว่างทั่วบริเวณ

Green View Apartments ซึ่งอยู่ห่างจากเขื่อนเพียง 1.2 กิโลเมตรเป็นที่พักซึ่งมอบความสบายครบครันเหมือนอยู่บ้าน โดยมีลานเฉลียงกว้างขวางซึ่งคุณสามารถผ่อนคลายหลังไปเล่นกิจกรรมให้อะดรีนาลีนสูบฉีดมาทั้งวัน

Bloukrans Bridge ในเวสเทิร์นเคป ประเทศแอฟริกาใต้

ไม่ว่าจะได้โดดบันจี้จัมป์หรือไม่ก็ตาม แต่วิวจาก Bloukrans Bridge ก็เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว

Bloukrans Bridge ได้ชื่อว่าเป็นสะพานโค้งแบบช่วงสะพานเดี่ยวที่สูงที่สุดของโลก อีกทั้งเป็นจุดที่มีการกระโดดบันจี้จัมป์เป็นครั้งแรกในแอฟริกา เดินไปตามทางเดินใต้สะพานจนถึงส่วนที่สูงที่สุดของวงโค้ง จากนั้นก้าวไปตรงทางเดินที่ยื่นออกไปและกระโดดบันจี้จัมป์จากความสูง 216 เมตรดิ่งลงเหนือแม่น้ำ Bloukrans River

แต่หากยังไม่พร้อมที่จะพุ่งตัวลงไป ก็สามารถร่วมทัวร์เดินชม Bloukrans Bridge เพื่อดื่มด่ำกับวิวของธรรมชาติโดยรอบได้เช่นกัน

Tranquility B&B เป็นที่พักในหมู่บ้าน Nature’s Valley ที่อยู่ใกล้เคียง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเปลี่ยนบรรยากาศหลังกระโดดบันจี้จัมป์ โดยบีแอนด์บีแห่งนี้อยู่ห่างจากชายหาดไม่กี่ก้าว อีกทั้งมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งและอ่างน้ำอุ่น

Kaivopuisto ในเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์

การกระโดดที่สวน Kaivopuisto จะลงไปที่แพลตฟอร์มซึ่งลอยอยู่นอกฝั่ง

ช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมของแต่ละปีจะมีการก่อสร้างจุดกระโดดบันจี้จัมป์ชั่วคราวที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์บริเวณ Kaivopuisto ซึ่งเป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดของเฮลซิงกิ จุดกระโดดนี้สูง 150 เมตรและตั้งอยู่ริมหาดของสวน ผู้เล่นจึงจะได้ดิ่งตัวลงมาสู่ฐานที่ลอยอยู่นอกฝั่ง และระหว่างที่กระโดดอยู่นั้นคาดว่าจะมีความเร็วถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

หลังบันจี้จัมป์แล้วก็อย่าลืมไปรับประกาศนียบัตรเป็นเครื่องหมายยืนยันความกล้าท้าชนของตนเอง

Hotel Fabian อยู่ห่างจากสวนโดยใช้เวลาเดินเพียง 13 นาที จึงเป็นทำเลสุดเพอร์เฟ็คท์สำหรับสำรวจสถานที่น่าสนใจทั้งหมดซึ่งได้เห็นจากด้านบนก่อนกระโดดลงมา

Nevis Highwire ในควีนส์ทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์

สัมผัสกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ดีที่สุดของนิวซีแลนด์ด้วยการกระโดดจาก Nevis Highwire

หากต้องการสัมผัสประสบการณ์เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ดีที่สุดของนิวซีแลนด์ก็ควรวางแผนมาเที่ยว Nevis Highwire โดยสิ่งที่ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยความเร้าใจนั้นไม่ได้มีเพียงแค่บันจี้จัมป์เท่านั้น แต่การเดินทางไปยังจุดกระโดดก็เร้าใจแทบจะพอ ๆ กัน เพราะการผจญภัยจะเริ่มด้วยการขับรถโฟร์วีลไปตามถนนบนเขาจนถึงช่องแคบ จากนั้นก็จะนั่งกระเช้าแขวนจากฝั่งใดฝั่งหนึ่งของหุบเขา Nevis Valley ไปยังใจกลางช่องเขาเพื่อกระโดดบันจี้จัมป์

เนื่องจากฐานกระโดดเป็นพื้นกระจก คนอื่น ๆ จึงสามารถมองลงมาจากด้านบนดูผู้เล่นดิ่งตัวจากความสูง 134 เมตรในเวลาแค่ 8 วินาทีครึ่งก่อนจะถูกดึงตัวกลับขึ้นมา

Sofitel Queenstown Hotel & Spa ตั้งอยู่ห่างจากจุดรับไป Nevis Highwire เพียงไม่กี่ช่วงตึก ที่พักนี้มีสปาให้บริการในสถานที่เพื่อผู้เข้าพักจะได้ผ่อนคลายทั้งก่อนและหลังกระโดดบันจี้จัมป์

Victoria Falls Bridge ที่ชายแดนของซิมบับเวและแซมเบีย

จุดกระโดดนี้น่าจะเป็นเพียงแห่งเดียวที่ต้องเอาพาสปอร์ตมาด้วย

Victoria Fall Bridges เป็นสะพานเชื่อมระหว่างซิมบับเวและแซมเบีย ตัวสะพานพาดอยู่บนช่องแยกที่เกิดจากการแม่น้ำ Zambezi river ไหลผ่าน ที่นี่เป็นจุดกระโดดวัดใจสูง 111 เมตรซึ่งมีน้ำตก Victoria Falls สาดซัดดังกระหึ่มเป็นฉากหลัง ไม่ว่าจะกระโดดคนเดียวหรือชักชวนผู้ที่ชอบกิจกรรมกระตุ้นอะดรีนาลีนให้มากระโดดคู่กัน วิวของที่นี่ก็หาที่ใดเทียบได้ยาก

อย่างไรก็ตาม วันที่จะกระโดดอย่าลืมเอาพาสปอร์ตไปด้วย เพราะสะพานแห่งนี้ถือเป็นชายแดนระหว่างซิมบับเวและแซมเบีย จึงต้องใช้พาสปอร์ตเพื่อขึ้นไปที่สะพาน

Shearwater's Explorers Village ให้บริการชาเลต์และเต็นท์พัก ตั้งอยู่ห่างจากน้ำตก Victoria Falls โดยใช้เวลาเดินเพียง 8 นาที