ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สุดยอดร้านอาหารติดดาวมิชลินในโรงแรมทั่วโลก


กิจกรรมน่าสนใจ
อาหารและเครื่องดื่ม
หรูหรา

ดาวมิชลิน (Michelin Star) เป็นรางวัลที่มอบให้ร้านอาหารระดับสูง แม้จะได้รับรางวัลเพียง 1 ดาวก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่ง แต่ร้านอาหารที่ได้รับ 3 ดาวจะถือว่าได้ไปถึงจุดสูงสุดของวงการอาหาร เนื่องด้วยสถานะดังกล่าวมีความโด่งดังในปัจจุบัน จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะลืมเลือนว่ามิชลินไกด์มีจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาหารแต่อย่างใด ทว่าเป็นการรวบรวมแผนที่ฟรีบอกเส้นทางสำหรับผู้ขับขี่บนท้องถนน คู่มือนี้สร้างขึ้นในปี 1900 โดย Michelin แบรนด์ยางรถของฝรั่งเศส แผนที่สำหรับแต่ละประเทศจะมีข้อมูลให้ผู้ขับขี่ทราบเส้นทางไปยังร้านซ่อมเครื่องยนต์ โรงแรม และปั๊มน้ำมันซึ่งล้วนแต่ได้คะแนนสูง ๆ ผ่านการใช้ระบบจัดอันดับดาว และตอนหลังก็ได้ขยายไปครอบคลุมร้านอาหารด้วยหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

ทุกวันนี้เชฟร้านอาหารต่างแข่งขันกันให้ได้มาซึ่งดาวเหล่านี้ที่พวกเขาปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่เหล่านักชิมที่ชื่นชอบอาหารดี ๆ ก็เดินทางไปทั่วโลกเพื่อลิ้มรสเมนูชั้นนำ บางครั้งคุณก็ไม่จำเป็นต้องออกนอกโรงแรมเลยด้วยซ้ำเพื่อให้ต่อมรับรสได้สัมผัสกับการทานอาหารระดับมิชลิน เพราะร้านอาหารเช่นนี้จำนวนมากตั้งอยู่ในโรงแรมที่หรูหราที่สุดของยุโรปอยู่แล้ว ดังนั้นคุณจึงสามารถทานอาหารและนอนหลับอย่างหรูหราได้ ด้านล่างนี้เป็นบางส่วนของร้านอาหารติดดาวมิชลินซึ่งอยู่ในโรงแรมและจัดว่าดีที่สุดในโลก

Le Brittany & Spa - รอสกอฟ ประเทศฝรั่งเศส

ทานอาหารชั้นเลิศพลางชมวิวที่ Le Brittany & Spa

Le Brittany ใน Relais & Châteaux Le Brittany & Spa เรียกได้ว่าเป็นงานฉลองสำหรับประสาทสัมผัสต่าง ๆ โดยตั้งอยู่บนแหลมที่ทะเลเซลติกมาบรรจบกับอ่าวบิสเคย์ ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลินแห่งนี้ตั้งอยู่ในคฤหาสน์โดดเด่นซึ่งมองออกไปเห็นทะเล จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ที่นี่จะเชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลเป็นพิเศษ และร้านอาหารก็เสิร์ฟเมนูน่าทานที่มีปลาแมคเคอเรลกับซอสบีทรูทและอาร์ติโชคท้องถิ่น ซึ่งยกย่องให้เห็นถึงมรดกด้านอาหารของแคว้นเบรอตาญ เมื่อเข้าพักที่ Le Brittany คุณจะได้รับการเอาอกเอาใจตั้งแต่หัวจรดเท้า เนื่องจากโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสปา คุณจึงสามารถดื่มด่ำกับอาหารชั้นเลิศและชีวิตดี ๆ

Park Hotel Vitznau - วิทซ์เนา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

มื้ออาหารจัดเต็มพร้อมวิวที่จะทำให้อ้าปากค้างที่ Park Hotel Vitznau

ให้รางวัลตัวเองได้ที่ Park Hotel Vitznau และร้านอาหาร Restaurant Focus ในโรงแรม จากนั้นออกเดินทางไปสัมผัสเรื่องอาหารโดยมีฉากหลังเป็นความงดงามของภูเขามากมายของสวิตเซอร์แลนด์ สถานที่พักผ่อนในสวิสแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์น และรับประกันว่ามีทัศนียภาพยอดเยี่ยมพร้อมได้ทานอาหารริมทะเลสาบ ร้านอาหารของโรงแรมได้รางวัล 2 ดาวมิชลิน คุณจึงจะได้ลิ้มรสเมนูอย่างแซลมอนสดปรุงกับเมล็ดมัสตาร์ดหรือเนื้อส่วนหลังปรุงกับอาร์ติโชค นอกจากนี้ที่ร้านอาหารก็มีห้องเก็บไวน์ 6 ห้อง ดังนั้นจึงคาดได้เลยว่าจะมีไวน์มาจับคู่กับแต่ละคอร์สได้อย่างสมบูรณ์แบบ

The Yeatman - บีลาโนวาเดกายา ประเทศโปรตุเกส

The Yeatman ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ชนิดพิเศษของที่นี่เอง

The Yeatman Gastronomic Restaurant ได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลินและตั้งอยู่ภายในโรงแรม The Yeatman ร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารโปรตุเกสแบบคลาสสิก ที่นี่คุณจะได้ลองอาหารทะเลสด ๆ จับคู่กับไวน์ชนิดพิเศษจากทั่วประเทศ หากจ่ายเพียง 35 ยูโรก็จะได้เข้าร่วมการชิมไวน์ Yeatman's Port ซึ่งจัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดีและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเหล้าอันโด่งดังของโปรตุเกส

แต่หากไม่พูดถึงเรื่องอาหารแล้ว ผู้คนมากมายอ้างว่ามาที่นี่เพียงเพื่อชมวิว เพราะลานระเบียงของ The Yeatman นั้นสามารถมองออกไปเห็นแม่น้ำโดรูและหลังคาบ้านเรือนสีสันสดใสของปอร์โต

Trianon Palace Versailles, A Waldorf Astoria Hotel - แวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส

ทานอาหารดุจดั่งราชาที่ Trianon Palace Versailles, A Waldorf Astoria Hotel

Waldorf Astoria Versailles - Trianon Palace ตั้งอยู่ถัดจากพระราชวังแวร์ซาย และเป็นที่พักซึ่งคุณจะได้จิบไวน์ ทานอาหาร และพักผ่อนอย่างราชา เก็บดาวเพิ่มสักหน่อยให้การเข้าพักโดยไปทานอาหารที่ Gordon Ramsay Au Trianon ซึ่งผสมผสานอาหารสไตล์บาโรกอย่างมีศิลปะเข้ากับรสชาติสมัยใหม่เพื่อสร้างเมนูแบบฉบับฝรั่งเศสสมัยใหม่อย่างแท้จริง เพลิดเพลินกับงานศิลป์ทานได้พร้อมเมนูไวน์สมบูรณ์แบบและบริการซึ่งไม่มีข้อบกพร่องเช่นกัน

SingleThread Farm Restaurant & Inn - ฮีลด์สเบิร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ลองอาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ SingleThread Farm Restaurant & Inn

SingleThread Farm เป็นร้านอาหารที่เปรียบได้ดั่งอัญมณี 3 ดาวในฮีลด์สเบิร์ก ซึ่งลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศเงียบสงบควบคู่ไปกับอาหารญี่ปุ่นของแท้ เชฟ Kyle Connaughton ผ่านการอบรมจากประเทศญี่ปุ่นและได้ฝึกฝนปรัชญา Omotenashi ซึ่งคำนึงถึงทุกความต้องการของลูกค้า

เมนูดังกล่าวสรรค์สร้างขึ้นโดยอิงตามฤดูกาลของพื้นที่ ฤดูใบไม้ผลิอาจมีแซลมอน Ōra King รมควันโรยหน้าด้วยไข่ปลาอาร์กติกชาร์และขิงญี่ปุ่น ส่วนให้ฤดูหนาวก็เน้นไปที่ทาร์ทาร์ฟักทองเสิร์ฟกับปู Dungeness ราดด้วยโฟมมะกรูด-มิโสะ และอย่าข้ามเมนูของหวานที่นี่ เพราะเชอร์เบทบัตเตอร์มิลค์ใบไธม์นั้นมีรีวิวพูดถึงอย่างล้นหลาม หลังผ่านคืนที่ผ่อนคลายในอินน์นี้ ผู้เข้าพักก็จะได้ตื่นมาทานอาหารเช้าที่อร่อยสุด ๆ ไม่แพ้กัน

Hotel Adlon Kempinski Berlin - เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

ลิ้มลองอาหารยุโรปชั้นสูงที่ Hotel Adlon Kempinski Berlin

โรงแรมซึ่งเป็นตำนานแห่งนี้ยิ่งใหญ่มากถึงมากที่สุด และ Lorenz Adlon Esszimme ก็ทำให้ที่นี่ดียิ่งขึ้นไปอีก ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลินแห่งนี้รับประกันว่าจะเผยรสชาติของโลกให้คุณได้ลิ้มลอง โดยหัวหน้าเชฟ Hendrik Otto และผู้จัดการร้านระดับโลก Oliver Kraft พร้อมให้บริการอาหารยุโรปชั้นสูงที่มีการตีความแบบสมัยใหม่ ทานอาหารพลางชมวิวประตูบรันเดนบูร์กเก่าแก่ก่อนพุ่งตัวลงไปขจัดความเครียดในสระว่ายน้ำสไตล์นีโอคลาสสิกของ Hotel Adlon Kempinski Berlin'

Four Seasons Hotel George V Paris - ปารีส ประเทศฝรั่งเศส

มีร้านอาหารติดดาวมิชลินถึง 3 แห่งให้เลือกใน Four Seasons

Four Seasons Hotel George V Paris ไม่ได้มีร้านอาหารติดดาวมิชลินเพียง 1 หรือ 2 แห่ง แต่มีถึง 3 แห่งตั้งอยู่ภายในโครงสร้างผนังเก่าแก่ของโรงแรม หากอยากสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารในโรงแรมแบบดีที่สุดก็ขอแนะนำให้จองโต๊ะที่ Le Cinq เพราะเรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดในเรื่องกินและดื่ม สมบูรณ์ด้วยห้องอาหารโทนสีทองหรูหราและเมนูชั้นสูงสไตล์คลาสสิก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ได้รับรางวัล 3 ดาวซึ่งเป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่ง ส่วนดาวอีก 2 ดวงมาจาก Le George ซึ่งให้บริการเมนูสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่สั่งมาแบ่งกันได้ และ L’Orangerie ร่วมสมัยซึ่งมองเห็นวิวลาน Marble Courtyard ปิดท้ายประสบการณ์ทานอาหารชั้นเลิศด้วยการชมพื้นที่เมืองแผ่กว้างของปารีสได้จากลานระเบียงและห้องพักหรูหรามั่งคั่งของโรงแรม

Castell Son Claret - เอสคาเปลยา ประเทศสเปน

Fernando P. Arellano ดึงความอุดมสมบูรณ์ของหมู่เกาะแบลีแอริกมาเสิร์ฟที่ Zaranda

Castell Son Claret ตั้งอยู่ในปราสาทที่ได้รับการบูรณะในชนบทแถบมายอร์กา ที่นี่ทำให้ผู้เข้าพักร้องว้าวด้วยสระที่หันหน้าไปทางภูเขาและสวนเขียวชอุ่ม นอกจากนี้ก็มีร้านอาหารในที่พักอย่าง Zaranda ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเมนูเมดิเตอร์เรเนียนสร้างสรรค์ใหม่และชวนให้น้ำลายสอ อาหารแต่ละจานบอกเล่าเรื่องราวและเน้นส่วนผสมพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งให้โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแกะนุ่ม ๆ หรือชีสบูราต้าจากนมแพะ เชฟ Fernando P. Arellano ที่มีรางวัลการันตีนั้นดึงความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารในหมู่เกาะแบลีแอริกมาให้สัมผัสได้ในแต่ละคำ ซึ่งการกล้าเสี่ยงทดลองเรื่องรสชาติของเชฟทำให้ Zaranda ได้รางวัล 2 ดาวมิชลิน รวมถึงมีลูกค้าที่พึงพอใจมาไม่ขาดสาย

Goodwood Park Hotel - ประเทศสิงคโปร์

รีบจองโต๊ะก่อนใครที่ Alma by Juan Amador

Alma by Juan Amador ตั้งอยู่ใน Goodwood Park Hotel และสรรค์สร้างเมนูสเปนสมัยใหม่ที่ได้รับอิทธิพลเอเชียขึ้นมาให้เป็นจริง โดยมีเต้าหู้กรอบ เนื้อหมูไอบีเรีย หอยเชลล์ฮอกไกโด และพาสต้าคาเปลลินีใส่ล็อบสเตอร์เคียงข้างกันอยู่บนเมนู เนื่องจากร้านนี้ได้รางวัล 1 ดาวมิชลินและอยู่ในโรงแรมเก่าแก่สไตล์โพสต์โคโลเนียล การจองโต๊ะที่นี่จึงเป็นหนึ่งในการจองโต๊ะที่ฮอตฮิตที่สุดของสิงคโปร์ ล้างปากด้วยตัวเลือกไวน์ วิสกี้ หรือคอนญักชั้นดี และเดินย่อยอาหารในบริเวณใกล้เคียงที่เต็มไปด้วยต้นไม้

Hotel Okura Amsterdam - อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

ร้าน 1 ดาวมิชลินอย่าง Yamazato ของ Hotel Okura Amsterdam จะไม่ทำให้ผิดหวัง

Hotel Okura มีร้านอาหาร 4 แห่งที่ได้รับรางวัล โดยมี 2 ร้านที่ได้รับรางวัลมิชลิน Ciel Bleu นำหน้าด้วยระดับ 2 ดาว ส่วน Yamazato Restaurant นั้นมี 1 ดาว ร้านแรกตั้งอยู่บนชั้น 23 ของโรงแรม ซึ่งเมื่อมองลงมาจะเห็นหลังคาสไตล์นีโอเรอเนซองส์และทางน้ำคดเคี้ยวของอัมสเตอร์ดัม ร้านอาหารดังกล่าวกุมบังเหียนโดยเชฟ Onno Kokmeijer และ Arjan Speelman นำเสนอประสบการณ์ทานอาหารญี่ปุ่น-ฝรั่งเศสแบบไม่เหมือนใคร ซึ่งในเมนูมีเนื้อวากิวญี่ปุ่นและคาเวียร์หายาก

ส่วนที่ Yamazato ระดับ 1 ดาวเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไคเซกิเรียวริ ซึ่งคุณจะได้อิ่มอร่อยกับอาหารญึ่ปุ่นที่จัดเตรียมอย่างมีศิลปะและผสมผสานความมินิมอลเข้ากับรสชาติที่มากถึงขีดสุด เมื่อทานจนเต็มอิ่มก็สามารถทิ้งตัวลงบนเตียงบุหรูหราของ Hotel Okura Amsterdam หรือออกกำลังเผาผลาญแคลอรี่ที่ฟิตเนสล้ำสมัย

Cottage In The Wood - คัมเบรีย ประเทศสหราชอาณาจักร

Cottage In The Wood เป็นหนึ่งในความลับที่คัมเบรียเก็บซ่อนไว้อย่างดีที่สุด

Cottage In The Wood ตั้งอยู่บนถนนแคบ ๆ ตัดผ่าน Braithwiate หมู่บ้านเล็ก ๆ แสนสบายในอังกฤษ จึงเรียกได้ว่าที่นี่เป็นหนึ่งในความลับที่คัมเบรียเก็บซ่อนไว้อย่างดีที่สุด ที่พักซึ่งเหมาะหลบมาพักตลอดปีแห่งนี้มีบรรยากาศอบอุ่นในฤดูหนาวและเงียบสงบในฤดูร้อน จึงจะสร้างความประหลาดใจและประทับใจให้กับผู้ที่เลือกกินที่สุดได้ เชฟ Ben Wilkinson ของครัว 1 ดาวมิชลินแห่งนี้จะคอยนำด้านการเตรียมอาหารแบบฉบับชนบทบริติชอย่างแท้จริงโดยใช้ส่วนผสมที่หามาจากในท้องถิ่น โดยเน้นหนักที่เอลเดอร์เบอร์รี่ ปลามังค์ฟิช และเนื้อกวาง และลูกค้าสามารถทานอาหารที่เรือนกระจกที่มีแสงอาทิตย์ส่องและสามารถมองเห็นป่า Whinlatter Forest และเส้นทาง Whinlatter Pass ลองออกสำรวจบริเวณผืนป่าโดยรอบหลังมื้ออาหาร และกลับไปที่ห้องนอนร่วมสมัยของโรงแรมเพื่อนอนหลับยามค่ำคืนอันเงียบสงบ